mybloglog

เรื่องนี้ ผีมีปัญหา

เรื่องนี้ ผีมีปัญหา

เรื่องนี้ ผีมีปัญหา
อยู่ระหว่างหนีเที่ยว

Search This Blog

Pages

Wednesday, December 8, 2010

ตุ๊กแกบ้านฉันเป็นตุ๊กแกที่ดีนะ..

ตุ๊กแกบ้านฉันเป็นตุ๊กแกที่ดีนะ....

10 กว่าปีมาแล้วกระมัง ตั้งแต่จำความได้
ที่ฉันเห็นมันห้อยหัวอยู่ตรงนั้น คอยร้องทักเวลามีใครเดินผ่านไปผ่านมา
ตุ๊กแกบ้านฉันเป็นตัวโดด มันอยู่ลำพังเพียงตัวเดียว
และมันหวงถิ่นของมันมาก ไม่ยอมให้ตุ๊กแกตัวอื่นเข้ามาใกล้ได้เลย
ในบ้านฉันจึงมีตุ๊กแกอยู่เพียงตัวเดียว นอกนั้นหนีไปอยู่ที่ยุ้งข้าวข้างๆ บ้านกันหมด
เพราะตัวของมันใหญ่มาก จึงทำให้ตุ๊กแกตัวอื่นกลัวมัน และไม่กล้าเข้าใกล้
อันที่จริงแล้วไม่ใช่แค่ตุ๊กแกด้วยกันเท่านั้นที่ไม่กล้าเข้าใกล้
แต่รวมถึงคนในบ้าน และคนที่แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมเยือนบ้านของเราด้วย

ไม่เพียงตัวโตเท่านั้นที่ทำให้มันดูน่ากลัว
ปกติแล้วใครๆ ก็กลัวตุ๊กแกกันทั้งนั้น
ทั้งๆ ที่มันก็อยู่ของมันดีๆ ไม่เคยทำร้ายใครเลย
แต่แค่เห็นลายตามตัวของมันเท่านั้น
ก็เพียงพอที่จะทำให้คนที่ได้พบได้เห็นขนลุกตาลายคล้ายจะเป็นลมได้แล้ว
และ ตุ๊กแกตัวนี้ก็ตัวโตมาก
หัวมันใหญ่กว่ากลักไม้ขีดเสียอีกมากโข
มันชอบโผล่แต่หัวออกมาให้เราได้เห็น ตรงประตูห้องน้ำที่มีฝาไม้กระดานซ้อนกันอยู่เป็นชั้นๆ
จึงเป็นที่กบดานของมันเป็นอย่างดี
มันอยู่มาตั้งแต่เข้าออกช่องไม้กระดานได้สบายๆ
แต่ตอนนี้เวลามันเข้าออกมาที เราจะได้ยินเสียงตัวมันครูดกับไม้กระดานดัง
"แกรก.. แกรก..."
เวลามันคลานผ่านไป ไม้กระดานจะดีดมากระทบกันดัง แต๊กๆ เลยทีเดียว

คนอื่นๆ อาจกลัวมัน
แต่ตาของฉันรักมันมากทีเดียว
และมันก็รักตามากด้วย
เวลาเห็นคนอื่นมามันจะโผล่มาแต่หัว
แต่พอเห็นตาเท่านั้นมันจะโผล่มาทั้งตัว เหลือแต่หางเท่านั้นที่ยังปัดป่ายไปมาอยู่ในซอกไม้

ตาของฉันชอบเข้าไปหยอกล้อกับมันเล่น ให้คนได้เห็นเป็นที่เสียวไส้ยิ่ง

กระทั่งแกอุตส่าห์หาตุ๊กตากิ้งก่ามาได้ตัวหนึ่ง
ตัวใหญ่มาก ใหญ่พอๆ กับตุ๊กแกตัวนั้นได้เลยกระมัง
แกก็เอาไปติดไว้ข้างฝาตรงที่ตุ๊กแกชอบออกมา
แกเคยหัวเราะพร้อมกับบอกฉันว่า มันจะได้มีเพื่อน

แต่ตุ๊กแกดูจะไม่ค่อยชอบใจนัก
บอกแล้วว่ามันหวงถิ่นมันมาก
ดังนั้นวันดีคืนดี เราจึงมักจะเห็นมันออกมาขู่ใส่ตุ๊กตากิ้งก่า
แล้วฉกกัดไปมา
แต่พอตุ๊กตาไม่ตอบโต้นานๆ มันก็เบื่อแล้วก็เลิกไปเอง

ส่วนตานั้นพอเห็นมันออกมาฉกงับกับกิ้งก่าปลอม ก็ชอบอกชอบใจใหญ่
จนในที่สุดตุ๊กแกตัวนั้นก็ไม่สนใจกิ้งก่าปลอมอีกต่อไป
เว้นแต่บางวันที่มันมันเขี้ยว ก็มีออกมางับหัวงับคอเล่นบ้างตามประสาของมัน..

อย่างที่บอกคนอื่นๆ อาจกลัว แต่ตาชอบมันมาก
แกมักจะสับเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆ วางบนนิ้วยื่นให้มันเสมอ
ตอนแรกๆ มันก็กลัวและมักจะหนีไป
แต่พอนานๆ เข้าเมื่อมันชักชิน ก็เข้ามาด้อมๆ มองๆ ดูตา
แล้วก็เข้ามาฉกชิ้นเนื้อไปจากนิ้วของแก แล้วหนีหายเข้าไปแอบกินในซอกฝาแสนสุขของมัน

ตอนแรกๆ นั้น
มันก็มีฉกผิด ไปงับเอานิ้วตาของบ้าง ตาก็ร้อง มันก็ตกใจ
ต่างฝ่ายต่างกระโดดหนีไปคนละทางสองทาง
พวกเราที่เฝ้ามองดูอยู่ ก็เห็นเป็นเรื่องขบขันกันไป แต่..
ก็ไม่มีใครกล้าเลียนแบบตาอยู่ดี!
นานวันเข้า ทักษะมันเริ่มดี จึงทำให้ไม่เคยเห็นตาร้องเพราะถูกงับนิ้วอีกเลย..

มันชอบเนื้อหมูมากถึงมากที่สุด
และไม่ค่อยชอบเนื้อไก่
ถ้าวันไหนตาให้เนื้อไก่ มันจะคาบค้างไว้สักพักทำตาล่อกแล่ก แล้วค่อยกิน
บางวันคาบๆ ไว้สักพักก็คายทิ้งเลยก็มี
พอคายเสร็จก็หันหลังสะบัดหางคลานต้วมเตี้ยมสลับเท้าขวาซ้ายกลับไปอยู่ในซอกตามเดิม
แต่ถ้าเป็นเนื้อหมู ไม่เคยเหลือ !!

จนกระทั่งวันหนึ่ง
ลูกชายคนโตของตาก็กลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงปิดเทอม
ลุงของฉันไปเป็นครูอยู่ต่างจังหวัดได้หลายปีแล้ว
นานๆ ครั้งถึงจะกลับมาเยี่ยมบ้านสักที
โดยเฉพาะช่วงปิดเทอมอย่างนี้ ลุงมักกลับมาเป็นประจำ
ลุงเป็นคนเสียงดังออกนิสัยนักเลงและมีเพื่อนฝูงเยอะ
โดยเฉพาะคนรุ่นราวคราวเดียวกัน รวมถึงรุ่นพี่รุ่นน้องมักให้ความเคารพยำเกรงอยู่มาก

ด้วยความมีเพื่อนฝูงมาก พอกลับมาบ้านก็จะต้องตั้งวงกินเหล้าเมากันเป็นประจำ
พอลุงมาอยู่บ้าน เหล้ายาปลาปิ้งมักไม่เคยขาด
หมูไก่ในเล้าของตาเอง ก็มักจะถูกนำออกมาทำกับข้าวกับแกล้มกันเป็นจำนวนมากเช่นกันในช่วงนี้

ฉันเองก็ชอบเวลาลุงมาอยู่บ้าน เพราะลุงมักมีเรื่องสนุกๆ มาเล่าให้ฟังอยู่เสมอๆ
และช่วงที่พวกลุงกินเหล้ากัน ฉันก็มักจะได้ลาภปากจากกับแกล้ม
รวมถึงเงินทอนค่าซื้อเหล้าให้แกอยู่เนืองๆ

ตาเองก็ไม่ค่อยสนใจอะไรมากนัก ลูกชายคนเดียวกลับบ้านแกก็ดีใจมากแล้ว
ช่วงที่ลุงอยู่บ้าน ก็ไม่มีใครได้สนใจว่าตุ๊กแกตัวนั้นเป็นอย่างไร
เพราะต่างคนต่างสนุกสนานเฮฮากัน ตามประสาญาติพี่น้องเพื่อนฝูง นานๆ ได้มาเจอหน้ากันที
พวกเราเองก็เข้าใจว่ามันคงรำคาญเสียงดังเลยหลบไปอยู่เงียบๆ จึงไม่สนใจอะไรนัก

จนกระทั่งหลายวันผ่านไป
" จ๊กๆๆ จ๊กๆๆ "
ตาจุ๊ปากส่งเสียงเรียก เรียกหาลูกชายอีกคนหนึ่งของแก
แต่ก็ไม่เจอ
แล้วตาก็มาถามพวกเราว่าเห็นตุ๊กแกมันบ้างไม๊ ?
ตาไม่เห็นมันหลายวันแล้ว
พวกเราถึงได้นึกถึงมันขึ้นมาได้
แต่ก็ไม่มีใครเห็นเลย

ผ่านไปอีกหลายวัน
ตาเริ่มเป็นกังวลจนกระวนกระวาย
เพราะไม่ว่าแกจะเรียกเท่าไร ตุ๊กแกตัวนั้นมันก็ไม่ยอมออกมา
ปกติ ถ้าตาจุ๊ปากทำเสียง " จ๊กๆๆ จ๊กๆๆ " มันก็จะรีบออกมาทันทีที่ได้ยิน
เพราะรู้ว่าจะได้กินเนื้อที่ตาจะป้อน
แต่คราวนี้ไม่ว่าตาจะเรียกสักเท่าใด
มันก็หายไปสนิท

จนกระทั่งวันหนึ่ง!!
ลุงกับพวกเพื่อนๆ ทำอะไรกันสักอย่างอยู่ในครัว หอมมาเชียว
ปกติลุงก็ทำครัวเก่งอยู่แล้ว จึงไม่มีใครเอะใจอะไรกันนัก
จนกระทั่ง ทุกคนได้ไปเห็นสิ่งที่ลุงกำลังจะทำเป็นกับแกล้มเท่านั้น
หลายคนถึงกับผงะ
เพื่อนๆ ลุงหัวเราะชอบใจกันใหญ่ แล้วบอกว่า
ตอนแรกก็งี้แหละ พอลองชิมเถอะจะรู้ว่าอร่อยแค่ไหน
เพราะตอนแรกเค้าก็ขยะแขยงเหมือนกัน
จนกระทั่งลุงฉันทำให้เค้าทานกันนั่นแหละจึงรู้ว่าอร่อยมาก
เค้าบอกอย่างนั้น..!

ครับ !!
อย่างที่คุณสังหรณ์ใจน่ะแหละ !!!
สิ่งที่เราเห็นก็คือ
เค้ากำลังทำตุ๊กแกย่างกัน
พวกเขาไปจับกันมาจากยุ้งข้าวข้างบ้าน บอกว่ามีเยอะแยะเชียว
พอได้ยินว่าเป็นตุ๊กแกย่างเท่านั้น
ตาก็ตกใจหน้าซีด รีบถามเสียงหลงว่า

" เฮ้ย. !! แล้ว...แล้ว ตัวที่อยู่บนบ้านล่ะ? คง..คง ไม่ได้. ? "

" โห..ตัวนั้นตัวใหญ่จริงๆ อร่อยมากๆ ตัวไหนก็สู้ไม่ได้เลย "
ลุงชะโงกหน้ามาตอบตา

พอได้ยินแค่นั้นเอง
ตาก็ทำท่าจะเป็นลม อ้าปากพะงาบๆ แต่ก็ไม่มีเสียงออกมาจากปาก
นอกจากทรุดตัวลงนั่งที่นั่นเอง
พวกลุงเห็นก็ตกอกตกใจว่าตาเป็นอะไร
เสียงตาครวญมาเบาๆ ว่า

" ไม่น่าเล้ย...! ไม่น่าเลย..! หมู เห็ด เป็ด ไก่ มีตั้งเยอะแยะดันไม่กิน มากินตุ๊กแกกูได้ "
ว่าแล้วแกก็ทำท่าลมจะใส่เอาอีกหน...

หลังจากได้ฟังเรื่องราวจากพวกเราที่ช่วยกันสาธยายให้ฟังอย่างละเอียดแล้ว
ลุงก็ถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว..
เมื่อฟังเรื่องราวต่างๆ จนจบ
ลุงก็ได้เข้าไป ขอโทษขอโพยตาเป็นการใหญ่
พวกเราก็ได้แต่ช่วยกันปลอบใจตาเท่านั้น
พวกเราทำได้เท่านั้นจริงๆ
สรุปว่าตุ๊กแกที่เหลือวันนั้นก็ไม่มีใครได้กิน นอกจากทิ้งไป...!!

ในบ้านเงียบเหลือเกิน
ไม่มีเสียงตุ๊กแกอีกแล้วในบ้าน
และหลังจากเกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้น ทั้งลุงทั้งตาก็หงอยๆ ไป
แต่ก็ไม่มีใครโทษใคร เพราะรู้ว่าไม่มีใครตั้งใจให้เรื่องมันเป็นอย่างนี้
เรื่องของเรื่อง ที่เกิดเรื่องขึ้น
ก็เพราะว่าลุงไม่รู้นั่นเองว่า มันเป็นตุ๊กแกตัวโปรดของตา..

หลังวันที่ลุงกลับไปแล้ว..
เราก็ได้ยินเสียงตุ๊กแกร้องขึ้นอีกในบ้าน
ตาดีใจมาก นึกว่าตัวที่ลุงเอาไปย่าง อาจเป็นคนละตัวกับตัวที่แกเลี้ยง และตอนนี้มันก็กลับมาแล้ว
แต่ความดีใจของตาก็หายไป
พร้อมกับความสยองของพวกเราเข้ามาแทนที่
หลายคืนที่เราได้ยินเสียงตุ๊กแกร้อง
ได้ยินเสียงมันลอดผ่านแผ่นไม้ดัง " แกรกๆ " เสียงไม้กระทบกันดัง " แต๊กๆ "
นอกจากมันแล้ว คงไม่มีตุ๊กแกตัวไหนอีกแล้วที่จะตัวใหญ่พอทำให้เกิดเสียงแบบนี้ได้
แต่...!
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่วัน
และไม่ว่าจะมีเสียงแค่ไหน
ก็ไม่มีใครได้เห็นตัวมันอีก
นอกจากเสียงที่ดังอยู่ทุกคืนเท่านั้น

" ตั๊บแก้ ตั๊บแก้ ตั๊บ. ตั๊บ.. ตั๊บ... ตั๊บ ตั๊บแก้ "

พวกเราเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนไม่ได้ไปอีกหลายวันหลายคืนทีเดียว
พวกน้าสาวต้องเตรียมกระโถนมาไว้ในห้อง
ส่วนผมยืนฉี่ออกนอกหน้าต่างเลย

จนกระทั่ง..! วันหนึ่ง
หลังจากเสียงตุ๊กแกร้องโดยไม่เห็นตัวมาหลายคืน
ตาก็ไปตบข้างฝาตรงที่มันชอบออกมาเบาๆ แล้วบอกว่า..
ไปดีเถอะลูก แล้วพ่อจะอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้นะลูกนะ...

ในที่สุด!
หลังจากวันนั้นพวกเราก็ไม่ได้ยินเสียงตุ๊กแกในบ้านอีกเลย
นอกจากนานๆ ครั้ง จะมีแว่วมาจากยุ้งข้าวข้างบ้าน
ตาเองก็ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ตุ๊กแกตัวนั้นตามที่เคยบอกไว้...

เป็นที่น่าสังเกตสำหรับฉันอยู่เรื่องหนึ่งก็คือว่า..
ตั้งแต่นั้นมา

ทุกครั้งที่ลุงกลับมาบ้าน
จะไม่ได้ยินเสียงตุ๊กแกร้องเลย
ไม่ว่าจะร้องมาจากที่ไหน
ในบ้านหรือยุ้งข้าว
รวมถึงตอนที่เกิดเรื่องกับตุ๊กแกตัวนั้นเอง
ตอนลุงยังไม่กลับ
ก็ไม่มีเสียงร้องของมันเลยเช่นกัน
จนลุงกลับไปแล้ว
มันถึงจะร้องขึ้นมา
หรือว่า "ลุงฉัน จะกลายเป็นที่หวาดกลัวของตุ๊กแกแถวนั้นไปเสียแล้ว..?"

" ตั๊บแก้ ตั๊บแก้ ตั๊บ. ตั๊บ.. ตั๊บ... ตั๊บ ตั๊บแก้ "
(...ฟังเพลินๆ จะได้ยินว่า เอาตับของแกมา 555...)




ปัฐพี คเวสกรณ์

No comments:

Post a Comment