mybloglog

เรื่องนี้ ผีมีปัญหา

เรื่องนี้ ผีมีปัญหา

เรื่องนี้ ผีมีปัญหา
อยู่ระหว่างหนีเที่ยว

Search This Blog

Pages

Tuesday, May 25, 2010

ไอ้ปัฐกลับมาแล้ว

ถนนพระรามเก้าตัดใหม่ พศ.2540 ( แล้วคนขี้สงสัยก็กลับมา )

สวัสดีครับ ผมไอ้ปัฐ หลานกำนันเปล่ง ยายเพียร
กลับมาพร้อมความสงสัย กับเรื่องที่พิสูจน์ด้วยตัวเองไม่ได้เช่นเคย

ตอนนี้ผมเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ แล้ว
กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร เมืองหลวงของไทย
อยู่กรุงอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
หากแต่ขณะนั้นเป็นเมืองกรุงใน พศ.2540 เท่านั้นเอง


ย้อนกลับไปเมื่อครั้งกระโน้น
กรุงเทพฯ ยังไม่เหมือนทุกวันนี้หรอกนะครับ
ยังคงมีที่ทุ่งที่นา และที่ว่างอยู่มากมาย
หลายพื้นที่ที่เห็นเป็นตึกราม บ้านช่อง ทันสมัย เจริญ อย่างทุกวันนี้
แทบไม่น่าเชื่อว่าตอนนั้น คือทุ่งเปลี่ยวๆ ดีๆ นี่เอง
พระรามเก้าตัดใหม่
เป็นพื้นที่หนึ่งที่เคยเป็นอย่างนั้น
ความเจริญในครั้งกระโน้น
มาหยุดอยู่เพียงที่ถนนพระรามเก้าเท่านั้น
ส่วนพระรามเก้าตัดใหม่เอง
ก็พึ่งตัดถนนใหม่ตามชื่อเรียก..
ลากยาวจากถนนพระรามเก้าตัดรามคำแหงตรงคลองตัน
มาจนถึงถนนกรุงเทพฯ กีฬา
สองข้างทางมีแต่ทุ่ง กะนา
มีบ้านชาวมุสลิมอยู่บ้าง
แต่บางตามาก
แทบไม่ผิดกับบ้านนอกที่ผมจากมาเลยทีเดียว
ตอนกลางคืน
จะมีแสงไฟสว่างๆ อยู่แถวนั้น ก็เพียงที่เดียว
คือปั๊มน้ำมันตราหอยเชลล์นั่นละครับ
ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงอยู่
อยู่ตรงกับข้ามกับด่านเก็บค่าทางด่วนศรีนครินทร์นั่นเอง
นับว่าเป็นปั๊มที่อยู่มานานมากทีเดียว


ในตอนนั้น
ผมได้งานทำแล้ว
ที่ทำงานผมอยู่ดินแดง
จึงต้องอาศัยถนนพระรามเก้า
และพระรามเก้าตัดใหม่ไปทำงานแทบทุกวัน

อ้อ.. ลืมบอกไป
ตอนนั้นผมอาศัยอยู่ที่ลำสาลี
ซึ่งตอนนี้น่าจะกลายเป็นลำสาหัสไปเสียแล้วนั้น..
งานของผมนั้นทำเป็นกะ หมุนเวียนเปลี่ยนกะกันตลอด 24 ชั่วโมง
บางวันจึงต้องออกไปทำงานแต่เช้าตรู่ ตั้งแต่ตี 4 ตี 5
บางวันกลับซะเกือบๆ เที่ยงคืน
ก็เพราะเวลาทำงานอย่างนี้แหละครับทำให้ผมเจอเรื่องไม่คาดคิด
หรือถึงจะคิดยังไงก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้อยู่เนืองๆ..

อยู่บ้านนอก ผมใช้มอเตอร์ไซค์
เข้ามาอยู่เมืองก็ยังไม่เปลี่ยน
เจ้าม้าเหล็กเครื่องทุ่นแรงเพื่อนยากคันเดิม ก็ยังตามมาอยู่กับผมด้วย

การเดินทางจากลำสาลีไปดินแดงในตอนนั้น
ถ้าใช้ถนนลาดพร้าวจะใกล้กว่ากันมาก
รถก็ยังไม่ติดมากเหมือนปัจจุบันนี้ และ..
หลายคนไม่ยอมใช้เส้นทางพระรามเก้านี้เป็นอันขาดครับ
เพราะมันขึ้นชื่อทีเดียวเกี่ยวกับเรื่องผีๆ เนี่ย!!


พวกรุ่นพี่หลายคนก็เคยเตือนผมแล้ว
แต่ผมไม่ใช่คนกลัวผี
และผมชอบบรรยากาศแบบทุ่งโล่งๆ รถว่างๆ มากกว่า
จึงเลือกใช้ถนนเส้นพระรามเก้าไปทำงาน ..

หลายวันผ่านไปโดยไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

จนกระทั่งวันหนึ่ง..!

ไม่ต้องกลัวครับ! ยังไม่ต้องกลัว!!

เรื่องที่ผมจะเล่า
จะไม่ใช่เรื่องน่ากลัวขนพองสยองเกล้าเด็ดขาด
แค่เป็นเรื่องอธิบายลำบากเท่านั้นเอง..

วันนั้นในตอนเช้า
จริงๆ ก็เกือบจะเที่ยงแล้วล่ะครับ
ผมก็ควบม้าเหล็กคันเก่าของผมไปทำงานเช่นเคย
จนกระทั่งรถไปติดไฟแดงที่ถนนกรุงเทพฯ กีฬา
ก่อนจะเลี้ยวเข้าถนนพระรามเก้าตัดใหม่
ผมสังเกตเห็นในกระจกมองหลังว่า
มีผู้หญิงใส่ชุดขาวเดินข้ามถนนผ่านหลังรถผมไป
ชุดของเธอเป็นชุดขาวแบบวันพีช
คือเสื้อและกระโปรงติดกัน
ก็..ชายหนุ่มนี่ครับ ยังพึ่งจะวัยสะรุ่นเอง แถมยังโสด
เห็นสาวทีมีหรือครับจะไม่มองตาม สวยไม่สวย ไม่รู้ละ
ผมหันตามแรงดึงดูดนั้นทันทีที่เริ่มเห็น

แต่..พระคุณท่านทั้งหลายครับ
ผู้หญิงที่ผมเห็นทางกระจกหลังนั้น
เมื่อผมหันหลังกลับไปมองเพื่อให้เห็นชัดๆ
กลับกลายเป็นว่า..

"ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย!!!"

ไม่มีใครอยู่หลังรถผมเลยแม้แต่คนเดียว

ขอประทานโทษอีกทีนะครับ เผื่อทุกท่านลืม
ตอนนั้นน่ะ!
มันเกือบจะเที่ยงอยู่แล้ว!!
และผมไม่น่าตาฝาดได้ขนาดนั้น

เจอะเอาเรื่องแบบนี้ ตอนเกือบเที่ยงนี่
เล่นเอาผมงงไปเลยเหมือนกัน

แต่ชีวิตยังต้องเดินต่อไปครับ
ไฟเขียวแล้ว!
ผมต้องออกรถก่อน
ก่อนจะมีใคร หงุดหงิดใจ เอาปืนมาไล่ยิง
ส่งผมไปพิสูจน์เองจริงๆ ว่าตายแล้วไปไหนซะก่อน
บอกตามตรงอยากรู้
แต่ยังไม่อยากไปครับ

ครับ..
เรื่องวันนั้นผมยังไม่ทันได้เล่าให้ใครฟังซะด้วยซ้ำ
และเรื่องมันก็ยังไม่จบ
ปัญหาจริงๆ กลับ
ตามมาในตอนที่ผมกลับบ้าน..

วันนั้นผมเลิกงานค่อนข้างดึกเหมือนๆ ทุกที
ก็เกือบๆ เที่ยงคืนนั้นละครับ
หลังจากขับมอเตอร์ไซค์จนมาถึงคลองตัน
ตรงถนนพระรามเก้าตัดกับรามคำแหง จะเข้าถนนพระรามเก้าตัดใหม่
ตรงแยกรามคำแหงพอดีนั่นละครับ

"อยู่ๆ รถผมก็หนักวูบตรงเบาะหลัง"
เหมือนมีใครขึ้นมาซ้อนท้าย

รถมอเตอร์ไซค์นะครับ ไม่ใช่รถยนต์
มีคนมาซ้อนท้ายมีหรือจะไม่รู้
และด้วยความที่ใช้มอเตอร์ไซค์มานาน
มันรู้โดยสัญชาตญาณครับ ว่า..
น้ำหนักขนาดนี้น่ะ น่าจะเป็น...
"เด็ก" หรือไม่ก็ "ผู้หญิง"
เพราะถ้าเป็นผู้ชายการยุบตัวของรถจะมากกว่านี้
แม้จะเป็นผู้ชายตัวเล็กๆ ก็ตาม

ถ้าเป็นทุกท่าน..
ผมจะอยากถามคุณว่า.. จะหันไปมองเลยไม๊?
ว่าใครมาซ้อนรถคุณ !?

โจรรึเปล่า?
หรือคนบ้า!?
อาจจะเป็นคนรู้จัก!!?

แต่ตอนนั้นน่ะ !
เกือบเที่ยงคืนแล้วนะ
อย่าลืมซะละ..

ส่วนผม
"ไม่มองเด็ดขาด!!"
กระจกหลัง...
ก็ ..ไม่!!!

จนไปถึงไอ้ปั๊มตราหอยนั่นละ
ถึงจะสว่างหน่อยในถนนสายนั้น

อยู่ๆ ..
รถก็ดีดตัวคืนสภาพปกติ เหมือนคนที่ซ้อนลุกออกไป
แต่มอเตอร์ไซค์ยังวิ่งอยู่นะครับ
เร็วด้วย!!
เพราะผมรีบ
ส่วนจะรีบไปตายที่ไหนคงรู้กันนะครับ
ก็มันไม่อยากอยู่แถวนั้นแล้วนี่
อยากรีบๆ ไปให้พ้นๆ ซะที
( บอกแล้ว.. ผมมันคนไม่กลัวผี เฮ้อๆ )

พอน้ำหนักดีดขึ้นกลับเป็นปกติ
และทันทีที่เจอแสงไฟ

ผมรีบหยุดรถทันที !
และหันไปพร้อมเผชิญหน้า!!
และเตรียมทิ้งรถทันทีที่เจออะไรก็ตามที่ไม่พึ่งปรารถนา !!!
( บอกอีกทีผีน่ะ ผมไม่กลัว จริงจริ๊ง )

ผลที่ปรากฏต่อหน้า..

" มัน - ไม่ - มี - อะ - ไร - เลย "

ไม่มีอะไรเลยจริงๆ !?
ไม่ว่าผีหรือคน

ผมมองแล้วก็มองอีก
มองแล้วก็มองอีก

แต่แถวนั้นก็ยังคงเป็นที่โล่ง "ว่างเปล่า"
มีเพียงในปั๊มเท่านั้น ที่มีเด็กปั๊ม สัปหงกไม่รู้ไม่ชี้อยู่
และมันก็อยู่ห่างเกินกว่าจะวิ่งไปโดยผมไม่รู้ไม่เห็นได้...

หลังจากวันนั้น
ผมก็เล่าให้ใครต่อใครอีกหลายคนฟัง
บ้างก็ส่งเสียงครางอย่างพิศวง
บ้างก็หัวเราะ เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้างเป็นเรื่องธรรมดา
ผมไม่ว่าใคร
ความคิดเห็นของใครก็ของมัน

จนกระทั่งเพื่อนผมคนหนึ่งมันก็สรุปให้ว่า
แรงดึงดูดตรงนั้นตอนนั้นมันอาจผิดปกติ
อืม... ก็ฟังดูดีที่สุดละครับ
ในแบบของวิทยาศาตร์ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้

แล้วคุณละครับ..
ว่าไง?
เจอมาบ้างแล้วหรือยัง?

ผมยังรอคำตอบและข้อคิดเห็นจากคุณอยู่นะครับ..
และผมได้แต่หวังว่าสักวัน...
เรื่องนี้จะมีคำตอบ !




ปัฐพี คเวสกรณ์

No comments:

Post a Comment